ไข่มุกแท้ โดยสังเขป

ไข่มุกแท้ เป็นเครื่องประดับที่สามารถสวมใส่ได้ทุกโอกาส ทุกงาน รวมถึงชีวิตประจำวัน โดยได้รับการยอมรับมาแต่อดีต สะท้อนถึงความอ่อนโยน ความมีชีวิตชีวา และในบางรูปแบบสามารถสะท้อนถึงความเป็นผู้นำ และความสง่างามได้อีกด้วย

ไข่มุกน้ำจืด (Freshwater) อันเป็นผลผลิตจากแหล่งน้ำจืด ส่วนใหญ่มีขนาดเล็ก แต่มีบ้างในบางแหล่งผลิต ที่สามารถผลิตได้จนมีขนาดใหญ่ ขึ้นกับทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม รวมถึงความเอาใจใส่ เทคนิคส่งเสริมของแต่ละแหล่งผลิต เป็นสำคัญ

ไข่มุกน้ำเค็ม อันเป็นผลผลิตจากแหล่งน้ำเค็มต่าง ๆ ผลผลิตที่ได้มีความหลากหลายมากกว่ามุกน้ำจืด เช่น ขนาดและสี เนื่องด้วย แร่ธาตุในท้องทะเล และ พันธุ์ของหอย อาทิ เช่น มุกเซ้าท์ซีหรือมุกทะเลใต้ (South Sea) มุกญี่ปุ่นหรือมุกอะโกย่า (Akoya) มุกตาฮิติ หรือ มุกตาฮิเตียน (Tahitian) เป็นต้น

รวมถึง มีการจำแนกประเภทอื่น ๆ เช่น ไข่มุกธรรมชาติ (Natural Pearl) กับ ไข่มุกเลี้ยง(Cultured Pearl) หรือ จำแนกเรียกไปตามลักษณะของหอย แหล่งผลิต หรือลักษณะผลผลิต อาทิ มุกซีก, Mabe, Keshi เป็นต้น

แต่สำหรับผู้ซื้อแล้ว ประการสำคัญคือ การพิจารณาถึงความแท้ของไข่มุกและคุณภาพ ส่วนเรื่ององค์ประกอบอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับความต้องการส่วนบุคคล

ซึ่งสามารถสอบถามเพิ่มเติมหรือดูตัวอย่างสินค้าต่าง ๆ ได้ที่ร้านค่ะ

ไข่มุกธรรมชาติ (Natural Pearl) กับ ไข่มุกเลี้ยง (Cultured Pearl)

ไข่มุกธรรมชาติ และ ไข่มุกเลี้ยง ล้วนเกิดขึ้นจากธรรมชาติเช่นกันค่ะ รวมถึงองค์ประกอบของไข่มุกแท้ ก็มาจากธรรมชาติด้วย จะต่างกันเพียงแต่ ไข่มุกเลี้ยงนั้น เกิดขึ้นจากความตั้งใจ ในขณะที่ไข่มุกธรรมชาติ เกิดขึ้นจากความบังเอิญของสิ่งแปลกปลอมที่เข้าไปในหอยมุก ก็คงเหมือนผลผลิตจากของธรรมชาติทั่วไป อาทิ ผลไม้ หรือ พืชพรรณต่างๆ ที่เกิดแต่ธรรมชาติด้วยความบังเอิญก็ได้ หรือ เกิดจากความตั้งใจบ่มเพาะเป็นไร่ สวน ฟาร์มก็ได้

และก็เช่นกันค่ะ ใช่ว่า ไข่มุกเลี้ยง จะให้ผลผลิตที่สวยงามทั้งหมด ทั้งนี้ ก็ย่อมขึ้นอยู่กับทรัพยากร สิ่งแวดล้อม การบ่มเพาะ และการคัดสรร ตั้งแต่

การคัดเลือกหอยผู้ให้ผลผลิต การคัดเลือกแหล่งเพาะ การคัดสรรนิวเคลียส การสอดแทรกนิวเคลียส เทคนิคการอนุบาล เทคนิคการเลี้ยงดู ทรัพยากร

สิ่งแวดล้อมต่าง ๆ เทคนิค ประสบการณ์ และความรู้ในการดูแลเก็บเกี่ยว รวมถึง ความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติต่าง ๆ ด้วย ซึ่งมีองค์ประกอบย่อยหลายร้อยประการค่ะ

วังไข่มุก เป็นร้านค้าแรกๆของประเทศ ที่นำไข่มุกเลี้ยง (Cultured Pearl) มาจำหน่ายและกล้ายืนยัน อธิบายความเข้าใจให้กับลูกค้าทราบ เนื่องจาก ในอดีตมักมีความสับสนเกี่ยวกับไข่มุกธรรมชาติและไข่มุกเลี้ยง ซึ่งเชื่อว่า ไข่มุกเลี้ยง เป็นไข่มุกปลอม ไม่ใช่มาจากธรรมชาติ ซึ่งแท้จริงแล้ว ไข่มุกเลี้ยงถือเป็นไข่มุกที่มีคุณภาพ เนื่องจากได้รับการดูแล คัดสรร ตั้งแต่แรกเริ่ม รวมถึงนิวเคลียสที่เป็นแกนกลางชั้นใน ก็มีการคัดสรรให้เข้ากับธรรมชาติของหอย ไม่ใช่สิ่งแปลกปลอมทางธรรมชาติที่อาจเสื่อมสลาย

ปัจจุบัน ไข่มุกแท้ในท้องตลาดเกือบทั้งหมด ส่วนใหญ่ คือ ไข่มุกเลี้ยง เพราะไข่มุกธรรมชาตินั้น ผู้เก็บเกี่ยวต้องเสาะแสวงหา ซึ่งต้องลงทุนลงแรงเป็นอย่างมากในการตามหาไข่มุกธรรมชาติที่มีคุณภาพแต่ละเม็ด ซึ่งมีน้อยรายที่จะนำมาสู่ตลาด เพราะต้องได้รับการพิสูจน์ และพิจารณาถึงความคงทนต่าง ๆ

ต่อการเป็นเครื่องประดับสวมใส่ด้วย เนื่องจาก ไข่มุกธรรมชาติเกิดจากความบังเอิญของสิ่งแปลกปลอมที่เราไม่สามารถมองเห็นได้แต่เริ่มแรก

ข้อแนะนำสำคัญ คือ บางครั้ง ผู้จัดจำหน่ายอาจกล่าวเท็จ เช่น ไข่มุกธรรมชาติมักมีรูปทรงธรรมชาติ ไม่กลม บิดเบี้ยว อันนี้เป็นไข่มุกธรรมชาติ

แต่แท้จริงแล้ว ก็คือ ไข่มุกเลี้ยงตกเกรด ที่ไม่ได้รูปทรงตามต้องการ หรือ เป็นเพียงพันธุ์หอยที่ผลิตให้ได้รูปทรงธรรมชาติเท่านั้น ไม่สามารถผลิตแบบกลมได้ เป็นต้น

ดังนี้ ขึ้นอยู่กับความซื่อสัตย์ของร้านค้าเป็นสำคัญ และ ทุกครั้งที่ท่านต้องการไข่มุกแท้ธรรมชาติจริง ๆ นั้น ท่านต้องส่งพิสูจน์ถึงองค์ประกอบภายใน เพราะไข่มุกเลี้ยงก็เกิดจากธรรมชาติทั้งหมดเช่นกัน การพิจารณาเพียงภายนอกแต่อย่างเดียวจึงไม่เพียงพอ ปัจจุบัน ลูกค้าที่ต้องการไข่มุกธรรมชาติคุณภาพดีนั้น มีน้อยรายมาก และไม่ใช่ผู้สวมใส่ทั่วไป แต่เป็นนักสะสมอัญมณี ซึ่งจะหาเป็นเม็ด ๆ เท่านั้น

ไข่มุกแท้ดูอย่างไร การพิจารณาไข่มุกแท้กับไข่มุกเทียม

การพิจารณาไข่มุกแท้ หรือ ไข่มุกเทียม โดยทั่วไปสามารถพิจารณาได้จากองค์ประกอบต่างๆ ของไข่มุกแท้ อาทิ
1) วิธีสังเกตด้วยตา โดยพิจารณาถึง พื้นผิว ตำหนิ ความเงางาม รูปทรง โทนสี การหักเหของแสง และความหนาของชั้นเคลือบ(Nacre) กล่าวคือ ไข่มุกแท้นั้น เกิดขึ้นจากธรรมชาติ โดยส่วนใหญ่ไข่มุกแท้จะมีตำหนิบ้างมากน้อยบ้างในบางเม็ด มีรูปทรงที่ไม่กลมสนิทเท่ากันหรือเหมือนกันทุกเม็ด และเมื่อสังเกตด้วยตาจากที่มีแสงสว่างเพียงพอ หรือส่องขยายหลายเท่า จะพบว่า พื้นผิวของไข่มุกแท้ มีลักษณะหยาบเล็กน้อย มีลายที่เกิดจากการสะสมและเคลือบชั้นต่างๆของมุกโดยกระบวนการทางธรรมชาติทีละชั้น ทำให้เกิดลายต่างๆ รวมถึงความแตกต่างของโทนสี และการหักเหของแสงโดยรอบไข่มุก ที่อาจไม่สม่ำเสมอ หรือมีเหลือบของชั้นที่แตกต่างกัน ที่พื้นผิวมุกก็จะมีลายที่เกิดจากธรรมชาติเฉพาะตัวแต่ละเม็ด คล้ายๆ กับมนุษย์หรือสิ่งมีชีวิตที่มีลายนิ้วมือที่แตกต่างกัน เป็นต้น และลายนี้เองที่จะช่วยให้เราสามารถสังเกตด้วยการสัมผัสได้เพิ่มเติม

2) วิธีสังเกตด้วยการสัมผัส เพื่อทดสอบพื้นผิวของไข่มุกแท้ เนื่องจากไข่มุกแท้นั้นเกิดขึ้นจากกระบวนการทางธรรมชาติดังที่กล่าวข้างต้น พื้นผิวสัมผัสของไข่มุกแท้ เมื่อลองสัมผัสค่อยๆอย่างช้าๆ จะพบว่า มีความหยาบอยู่บ้าง ไม่เรียบลื่น แตกต่างจากพื้นผิวสังเคราะห์ ที่มักจะมีพื้นผิวเรียบลื่น หรือเป็นเม็ดเกร็ดเล็กๆคล้ายการพ่นเคลือบ โดยข้อแนะนำทั่วไป หลายท่านคงเคยได้ยินบ้าง เช่น การนำมุกไปสีกับฟันหน้า เพื่อให้รู้สึกพื้นผิวสัมผัสสากๆ ไม่เรียบ ซึ่งกรณีนี้เมื่อไปที่ร้านคงกระทำได้ยาก หรือ การนำมุกสองเม็ดมาเสียดสีกันเบาๆ เพื่อสัมผัสความรู้สึก แต่อย่างไรก็ตาม วิธีการดังกล่าว ต้องอาศัยการดูด้วยตาประกอบ เพราะไม่มีความแน่นอน เนื่องจากปัจจุบัน การพ่นเคลือบมุกเทียมนั้นสามารถลอกเลียนแบบให้ไม่เรียบได้ ทั้งนี้ต้องอาศัยองค์ประกอบแวดล้อมรวมถึงประสบการณ์ของผู้สังเกตุอีกด้วย

3) วิธีทดสอบด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เช่น การทดสอบด้วยความร้อน อาทิ การเผาไฟเพื่อพิสูจน์ความทนทานของสารประกอบโดยรอบว่าเป็นสารสังเคราะห์หรือไม่ (ไม่แนะนำให้ทำเองที่บ้าน เพราะความร้อนอาจทำลายพื้นผิวของมุก) การทดสอบด้วยอุณหภูมิที่แตกต่างกันเพื่อพิจารณาถึงการเปลี่ยนแปลงของสีและปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นโดยรอบ การทดสอบด้วยสารเคมีหรือสารละลายต่างๆที่ทำปฏิกิริยากับแคลเซียมคาร์บอเนตของชั้นมุก การทดสอบด้วยการเจาะเพื่อตรวจดูองค์ประกอบภายใน การทดสอบด้วยการ X-RAY การทดสอบน้ำหนักและความถ่วงจำเพาะของมุก เป็นต้น ซึ่งวิธีเหล่านี้ เวลาที่ท่านไปเลือกซื้อสินค้าคงไม่สามารถกระทำที่ร้านค้าได้ เนื่องจาก อาจเป็นการทำลายมุกหรือต้องการเครื่องมือหรือห้องปฏิบัติการโดยเฉพาะ ซึ่งวิธีการส่วนใหญ่นี้มักทำเพื่อพิสูจน์มากกว่าการรักษามูลค่า ปัจจุบันเรานิยมการทดสอบด้วยวิธีการ X-Ray เพื่อหานิวเคลียส และองค์ประกอบชั้นเคลือบมุก เพราะเครื่องมือมีราคาไม่สูงนัก รวมกับการพิจารณาองค์ประกอบอื่นๆ ร่วมด้วย

อย่างไรก็ตาม วิธีการข้างต้น เป็นวิธีการเบื้องต้นเท่านั้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการพิจารณาไข่มุกแท้ แต่ปัจจุบัน เนื่องด้วย เทคโนโลยีมีการพัฒนาและความก้าวหน้าไปมาก เทคนิคการปลอมแปลง เลียนแบบไข่มุกแท้ ก็มีเทคนิคขั้นสูงและซับซ้อนมากขึ้น จนทำให้ยากต่อการพิสูจน์ได้ด้วยตาหรือการสัมผัสเบื้องต้น อาทิ การนำไข่มุกด้อยคุณภาพที่ถูกคัดทิ้ง หรือเปลือกหอยต่างๆ มาบดละเอียดเป็นขนาดเล็กมากๆ และใช้สารประกอบทางเคมีที่ทำให้เกิดการยึดติด การนำไข่มุกด้อยคุณภาพมาเคลือบด้วยสารประกอบเพื่อลบตำหนิหรือสร้างความเงางาม หรือแม้กระทั่งการสร้างตำหนิเทียมเพื่อเลียนแบบธรรมชาติได้อีกด้วย

ดังนี้ การพิจารณาไข่มุกแท้ในปัจจุบัน จึงต้องพิจารณาจากแหล่งที่มาที่น่าเชื่อถือเป็นสำคัญ การพิสูจน์คุณภาพของไข่มุกแท้ บ่อยครั้ง จึงต้องอาศัยกาลเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Luster หรือความเงางามที่เกิดการจากสะสมโดยระยะเวลาที่ยาวนานของธรรมชาติ ที่มีความเหลือบล้ำอยู่ภายในชั้นผิวไข่มุก

เทคนิคการเลือกซื้อ

แม้จะสามารถแบ่งแยกระหว่างไข่มุกเทียมกับไข่มุกแท้แล้ว ข้อควรระมัดระวังสำคัญ คือ การปลอมปนคุณภาพหรือปะปนประเภทของไข่มุก ระหว่าง ไข่มุกเทียมกับไข่มุกแท้ หรือนำไข่มุกแท้ด้อยคุณภาพ หรือไข่มุกแท้ต่างประเภท มาปะปนกันในผลิตภัณฑ์เดียวกัน อาทิ สร้อยคอ หรือสร้อยข้อมือ เพื่อทำให้ราคาต้นทุนถูกลง เช่น นำไข่มุกน้ำจืดขนาดใหญ่มาหลอกขายว่าเป็นไข่มุก South Sea หรือ นำไข่มุกน้ำจืดคุณภาพต่ำมาย้อมสีหรือเคลือบเงา มาหลอกขายว่าเป็นมุกญี่ปุ่น เป็นต้น
ข้อควรระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มุกสีพิเศษ (Overtone) เช่น มุกสีทอง (Gold) สีเงิน (Silver) สีทองแดง(Copper) สีช็อคโกแลต (Chocolate) หรือ สีเหลือบนกยูง (Peacock) ฯลฯ ซึ่งมักพบการย้อมสี ให้มีความเงางามและสีสรรที่สดใสให้ดูหายากในราคาที่ถูก และต้องระวังคำโฆษณาชวนเชื่อ เพราะปกติมุกเหล่านี้จะเป็นสีพิเศษที่หาได้ยากในท้องตลาด และค่อนข้างมีราคาเมื่อเปรียบเทียบกับสีทั่วไป ดังนี้ แหล่งผลิตที่ไม่มีมาตรฐาน หวังค้ากำไรเกินตลาดแท้จริง อาจปรับเปลี่ยนคุณภาพสีด้วยการย้อมทางเคมีเพิ่มเข้าไป เมื่อใช้ไปนานๆอาจเห็นผล ว่าคุณภาพได้เสื่อมถอยลงไป ไม่ใช่เครื่องประดับที่ทรงคุณค่าอีกต่อไป

ไข่มุกแท้คุณภาพดีจะมีคุณสมบัติอย่างไร

1.รูปทรง ไข่มุกทรงกลม(perfect round) จะหายากที่สุดเพราะไข่มุกเเท้เก็บขึ้นมาจากตัวหอยอย่างไรก็จะเป็นทรงแบบนั้นและไม่มีการเจียระไน

รูปทรงที่ได้ก็จะมีหลากหลายไม่ว่าจะเป็นทรงกลม ทรงรี ทรงภูเขา หรือทรงซาลาเปา ทรงหยดน้ำ ทรงธรรมชาติ(baroque )หรือทรงกระดุม เป็นต้น
2.ผิวของไข่มุก(surface) ผิวของไข่มุกแท้คุณภาพดีต้องเนียน เกลี้ยง เรียบ ไม่มีลายคลื่นบนผิวของไข่มุก แต่มุกแท้ยังไงก็อาจจะมีผิวที่ไม่ค่อยสม่ำเสมอบ้างแต่ก็นับได้ว่าเป็นเรื่องที่ปกติอย่างหนึ่ง แต่ยิ่งผิวของไข่มุกดีเท่าไหร่ราคาก็จะสูงขึ้นเท่านั้นเเต่ก็ต้องมีองค์ประกอบอื่นๆเข้ามาร่วมด้วย
3.ตำหนิ(blemish)ไข่มุกแท้หลีกเลี่ยงตำหนิเป็นไปได้ค่อนข้างยาก ลักษณะตำหนิของมุกคือ มีจุด หลุมเล็กๆ หรือเป็นหลุมเเล้วมีรอยขีด ยิ่งมีมากเท่าไหร่ความสวยงามของไข่มุกก็จะน้อยลง และราคาถูกลงแต่ถ้าไม่มีตำหนิเลยหรือมีเพียงเล็กน้อยราคาก็จะสูงขึ้นเช่นกัน
4.สี(body color)มุกแท้มีได้หลากหลายสีขึ้นอยู่กับประเภทของไข่มุกว่าเป็นไข่มุกประเภทไหน ไข่มุกน้ำจืดสีที่ได้ก็จะมีสีขาว ครีม สีส้มโอรส สีม่วง ส่วนไข่มุกญี่ปุ่น(akoya)จะให้สีขาว สีเชมเปญ สีทองอ่อน และสีเทา และไข่มุกsouth sea จะให้สีที่ค่อนข้างจะหลากหลายไม่ว่าจะเป็นสีขาว สีครีม สีทอง สีเทา สีเงิน สีเขียว ขึ้นอยู่กับชนิดของพันธุ์หอยมุกและสถานที่เพาะเลี้ยงหรือแหล่งกำเนิด
5.เงาสีหรือเหลือบของสี(shade) เงาสีของไข่มุกจะสังเกตจากเวลาที่เเสงตกกระทบไข่มุกจะเห็นสีของไข่มุกอยู่2สี สีขอบนอกของตัวไข่มุกที่เป็นสีอ่อนจะเรียกว่าสีของไข่มุก(body color) ส่วนที่เป็นสีเข้มวงกลมตรงกลางไข่มุกจะเรียกว่าเงาสีหรือshadeของไข่มุก
6.ความเงางาม(luster) สามารถดูlusterไข่มุกแท้ได้จากเงาสี (shade) โดยจะสังเกตจากการมองดูเงาสะท้อน ยิ่งสะท้อนภาพชัดเจนเท่าไหร่แสดงว่า (luster) ดีมากเท่านั้น
7.ขนาด(size) ขนาดของไข่มุกแท้ทุกชนิดจะมีขนาดตั้งเเต่ประมาณ 2mm.ขึ้นไป ขึ้นอยู่กับขนาดของตัวหอยมุก และระยะเวลาในการเก็บเกี่ยวไข่มุก ไข่มุกน้ำจืดและมุกsouth sea จะมีตั้งเเต่เล็กจนถึงใหญ่เกิน10mm.ขึ้นไป แต่ไข่มุกญี่ปุ่น (akoya) จะมีขนาดเล็กจนถึงประมาณ11mm.เพราะเป็นหอยมุกพันธุ์เล็กไข่มุกที่ได้จะไม่ได้มีขนาดใหญ่เหมือนกับไข่มุกน้ำจืดเเละsouth sea
8.ความหนาของชั้นเคลือบ (nacre) ไข่มุกยิ่งใช้เวลาในการเพาะเลี้ยงนาน จะมีความหนาของชั้นเคลือบมากกว่าใช้เวลาเพาะเลี้ยงไม่นาน เพราะถ้าความหนาของชั้นเคลือบยิ่งมากจะดีเพราะมีความทนทานมากกว่า
9.ความหายาก (rarity) ไข่มุกแท้ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว หรือมีผลผลิตน้อยแต่เป็นที่ต้องการของตลาดมากๆ ราคาก็จะสูงตามไปด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าคุณภาพของไข่มุกมีครบทุกข้อ ยิ่งไข่มุกมีขนาดใหญ่เท่าไหร่ก็จะมีราคาแพงมากยิ่งขึ้นเท่านั้น แต่ถ้ามีไม่ครบราคาก็จะลดทอนไปตามคุณสมบัติโดยรวมของไข่มุกชิ้นนั้น การจะเปรียบเทียบคุณภาพของไข่มุกนั้นจะต้องมีไข่มุกหลายๆคุณภาพในการใช้เปรียบเทียบจึงจะสังเกตและสรุปได้ง่ายว่าไข่มุกชิ้นนั้นคุณภาพอยู่ที่เกรดไหน และราคาควรจะเป็นเท่าไหร่ เพราะถ้าไม่มีของเปรียบเทียบจะดูค่อนข้างยาก

ไข่มุกแท้ทำสีกับไข่มุกแท้สีธรรมชาติ

ไข่มุกแท้สามารถมีได้หลากหลายสีก็จริง แต่บางทีก็ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้หมดเนื่องด้วยหลายๆปัจจัย เช่นความชื่นชอบ เทรน เพื่อปรับปรุงคุณภาพของไข่มุกและราคา จึงต้องมีการใช้เทคนิคต่างๆเช่น ย้อมสี ฟอกสีใช้ความร้อนกระตุ้นการเกิดสี ฉายรังสีหรือใช้สารซิลเวอร์ไนเตรตในการกระตุ้นสีเพื่อให้มีสีที่หลากหลายขึ้นเป็นต้น ไข่มุกที่ทำสีถ้าใช้ไปเรื่อยๆสีจะซีดจางลงหรือไม่สม่ำเสมอ ไข่มุกแท้สามารถทำสีได้ทุกชนิด ส่วนใหญ่จะใช้ไข่มุกน้ำจืดในการทำสีเพราะมีขนาดให้เลือกได้หลากหลาย และราคาถูก เมื่อย้อมสีเช่นโทนสีดำและทองก็จะคล้ายกับมุกsouth sea หลายครั้งที่ทำให้เข้าใจผิดว่าไข่มุกsouth sea ซึ่งมีราคาสูงกว่า เพราะฉะนั้นจึงเป็นข้อพึงระวังในการซื้อมุกเป็นอย่างยิ่ง ถ้าจะดีที่สุดควรหาร้านที่เชื่อถือได้หรือมีใบรับรองที่น่าเชื่อถือจะปลอดภัยกว่า

โดยทั่วไป ร้านวังไข่มุก จะไม่นิยมมาจำหน่าย เนื่องจากขายได้ยาก เพราะความรู้สึกของกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ยังไม่ให้การยอมรับมากนัก เพราะทุกอย่างของไข่มุกแท้เป็นเรื่องสำคัญ หากลูกค้าต้องการเฉดสีนั้น ๆ ร้านวังไข่มุกจะบอกกับลูกค้าตรง ๆ ในสินค้านั้นๆ ว่ามีการ Treat สีมาด้วย

ทำไมไข่มุกแท้ราคาถูกบ้าง แพงบ้าง

ราคาของไข่มุกแท้จะมีตั้งแต่หลักสิบถึงหลักล้านบาท ขึ้นอยู่กับคุณภาพของไข่มุกและประเภทของมุกตามที่ได้บอกไว้ตามคุณภาพของไข่มุก ถ้าสวยครบยิ่งมีนาดใหญ่จะยิ่งเเพง ทั้งนี้ทั้งนั้นก็จะขึ้นอยู่กับองค์ประกอบอื่นๆด้วยเช่นใช้ตัวเรือนอะไร เพชรแท้ไหม คุณภาพเพชรเป็นอย่างไร รวมถึงคุณภาพของตัวไข่มุกด้วยประกอบกัน จึงจะสามารถกำหนดราคาได้

วิธีดูแลรักษาไข่มุกแท้
มุก เป็นเครื่องประดับที่มีเสน่ห์และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สีสันที่หลากหลายเฉดสีและความมันวาว (luster)ของมุก ทำให้ผู้สวมใส่ดูสง่างามและภูมิฐาน และยังดึงดูดสายตาต่อผู้พบเห็น แต่มุกเป็นอัญมณีที่มีความบอบบางกว่าอัญมณีอื่นๆ ดังนั้นจึงควรได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกวิธี โดยมีขั้นตอนง่ายๆดังนี้

1.ควรเก็บเครื่องประดับไข่มุกแยกกับเครื่องประดับอื่นๆ เพราะอาจจะเกิดการกระทบกันจนเป็นรอยขีดข่วนได้

2.ไม่ควรเก็บไข่มุกไว้ในที่ร้อนหรืออับชื้นมากเกินไปเพราะอาจทำให้ความแวววาวของไข่มุกลดลง เช่นถ้าเก็บไว้ในตู้เซฟนานๆพอจะนำไข่มุกมาใช้งานอาจจะเห็นคราบคล้ายผงแป้งเคลือบอยู่บนผิวไข่มุก ทำให้ไม่เงาสวยเหมือนเดิม แนะนำให้ใช้ผ้านุ่มๆชุบน้ำอุ่นค่อนร้อน บิดให้หมาดค่อยๆเช็ดไข่มุกทีละเม็ดเเล้วใช้ผ้านุ่มๆแห้งๆเช็ดตามอีกรอบ วางไว้ให้เเห้งสนิทแล้วค่อยนำมาใช้หรือจัดเก็บ

3.ก่อนใช้เครื่องประดับไข่มุกควรแต่งหน้า ทำผมให้เรียบร้อยก่อนสวมใส่เพื่อหลีกเลี่ยงสเปรย์ น้ำหอม เครื่องสำอางค์ ครีมบำรุงผิว และความร้อนจากไดร์เป่าผม เพื่อถนอมไข่มุกให้สวยเงางามเช่นเดิม

วิธีทำความสะอาดไข่มุก
หลังการใช้งานเครื่องประดับไข่มุก ควรทำความสะอาดไข่มุกโดยให้ใช้ผ้านุ่มๆชุบน้ำอุ่นค่อนร้อน บิดให้หมาดค่อยๆเช็ดไข่มุกทีละเม็ดเเล้วใช้ผ้านุ่มๆแห้งๆเช็ดตามอีกรอบ วางไว้ให้เเห้งสนิทแล้วค่อยนำมาใช้หรือจัดเก็บ และมีหลายท่านประสบปัญหาเวลาเก็บไข่มุกไว้ในตู้เซฟนานๆพอจะนำไข่มุกมาใช้งานอาจจะเห็นคราบคล้ายผงแป้งเคลือบอยู่บนผิวไข่มุก ทำให้ไม่เงาสวยเหมือนเดิม แนะนำให้ใช้วิธีด้านบนในการทำความสะอาดเพียงเท่านี้ไข่มุกก็จะกลับมาสวยงามเเวววาวเช่นเดิม

การทำความสะอาดไข่มุกแท้

หลังการใช้งานเครื่องประดับไข่มุก ควรทำความสะอาดไข่มุกโดยให้ใช้ผ้านุ่มๆชุบน้ำอุ่นค่อนร้อน บิดให้หมาดค่อยๆเช็ดไข่มุกทีละเม็ดเเล้วใช้ผ้านุ่มๆแห้งๆเช็ดตามอีกรอบ วางไว้ให้เเห้งสนิทแล้วค่อยนำมาใช้หรือจัดเก็บ และมีหลายท่านประสบปัญหาเวลาเก็บไข่มุกไว้ในตู้เซฟนานๆพอจะนำไข่มุกมาใช้งานอาจจะเห็นคราบคล้ายผงแป้งเคลือบอยู่บนผิวไข่มุก ทำให้ไม่เงาสวยเหมือนเดิม แนะนำให้ใช้วิธีด้านบนในการทำความสะอาดเพียงเท่านี้ไข่มุกก็จะกลับมาสวยงามเเวววาวเช่นเดิม

เลือกซื้อกับวังไข่มุกดีกว่าอย่างไร

วังไข่มุก มีที่ตั้งหลักแหล่งแน่นอน จำหน่ายเครื่องประดับไข่มุกแท้โดยเฉพาะมานานกว่า 40 ปี มีตราสินค้าที่ได้รับการยอมรับในวงการเครื่องประดับไข่มุกแท้ และไม่ใช่เพียงร้านค้าเช่าสถานที่ชั่วคราวเพื่อเปิดขาย หรือพร้อมปิดตัวหนีไปเมื่อใดก็ได้ มีประสบการณ์ที่ยาวนานและมุ่งมั่นคัดสรรเฉพาะไข่มุกแท้ คัดคุณภาพเท่านั้น มีสินค้าให้เลือกที่หลากหลาย และจำหน่ายในราคาที่ตรงตามคุณภาพ ให้กับลูกค้ามายาวนาน

วังไข่มุกจึงสามารถออกใบรับรองจากทางร้าน เพื่อความมั่นใจของลูกค้า มิใช่ใบรับรองเพียงเพื่อประกอบการอวดอ้างให้ขายสินค้าได้ ซึ่งผู้ซื้อไม่สามารถติดตามร้านค้าได้ในภายหลัง และด้วยรูปแบบธุรกิจของวังไข่มุกที่มุ่งเน้นเฉพาะอัญมณีไข่มุกแท้คัดคุณภาพโดยเฉพาะ มีจำนวนสินค้าให้เลือก รวมถึงประสบการณ์และความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับไข่มุกแท้คัดคุณภาพมาโดยเฉพาะ ทำให้วังไข่มุกเป็นผู้นำด้านเครื่องประดับไข่มุกอย่างแท้จริง สามารถสร้างอำนาจต่อรอง เลือกคัดสรรคุณภาพไข่มุกแท้ได้จากฟาร์ม ผู้แทนจำหน่าย ผู้จัดจำหน่ายโดยตรง รวมถึงประสบการณ์ด้านการคัดเลือกคุณภาพ เทคนิคการร้อยสร้อยมุก เทคนิคการคัดเลือกและสร้างตัวเรือนที่เกี่ยวกับเครื่องประดับไข่มุกแท้ เป็นต้น

ดังนั้น สิ่งหนึ่งที่เรายังคงยืนหยัดเสมอมา คือ สินค้าของวังไข่มุกนั้น จักคัดสรรเฉพาะของสวยในแต่ละระดับสินค้านั้น ๆ ที่ต้องให้ความพึงพอใจกับลูกค้าเป็นสำคัญ เมื่อเทียบกับสินค้าไข่มุกระดับเดียวกันทั่วไป และ ต้องคุ้มค่ากับราคา ค่าใช้จ่ายที่ลูกค้าเสียไป เพราะ”วังไข่มุก”จำหน่ายแต่เครื่องประดับไข่มุกแท้แต่เพียงอย่างเดียว ไม่จำหน่ายสินค้าอย่างอื่น ลูกค้าที่ซื้อไปแล้วจะต้องเป็นลูกค้าเก่าในอนาคต กลุ่มผู้นิยมไข่มุกแท้จะต้องได้รับคำบอกกล่าวต่อไป เพราะธุรกิจเราจะอยู่ได้จากไข่มุกแท้ คัดคุณภาพ ที่ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่าและพึงพอใจเมื่อสวมใส่

อนึ่ง สำหรับท่านที่ต้องการซื้อสร้อยไข่มุกแท้ เนื่องจากลักษณะโครงสร้างทางร่างกายของผู้สวมใส่แต่ละท่านไม่เหมือนกัน ทางร้านจะทำการวัดไซส์ ปรับร้อยใหม่ เพื่อให้ท่านได้ใส่สร้อยไข่มุกได้สวยที่สุด รวมถึงให้คำแนะนำต่างๆ โดยอาศัยประสบการณ์การจำหน่ายสร้อยไข่มุกมากว่า 40 ปี อาทิ สีมุกที่เข้ากับลักษณะ รูปแบบการสวมใส่ เทคนิคการเพิ่มความยาว เป็นต้น

วังไข่มุกมีจำหน่ายสินค้าบนอินเตอร์เน็ต

ลูกค้าสามารถเลือกชมสินค้ามากมาย และเลือกดูโปรโมชั่นในแต่ละเดือน พร้อมทั้งถ้าไม่สะดวกมาที่ร้าน ทางร้านวังไข่มุกมีบริการจัดส่งสินค้าถึงบ้าน สินค้าที่ลูกค้าเลือก จะห่อหุ้มกันกระแทกอย่างดี เพื่อส่งสินค้าถึงมืออย่างปลอดภัย

บัตรรับประกัน รับประกันอะไรบ้าง ?

สินค้าทุกชิ้นมีบัตรรับประกันว่าเป็นมุกแท้ มุกประเภทไหน ขนาดมุกเท่าไหร่ จำนวนมุกกี่เม็ดที่ซื้อ วัสดุตัวเรือน วัสดุตะขอ และน้ำหนักเพชร ลูกค้าสามารถนำไปตรวจสอบที่สถาบันอัญมณีได้

มุกภูเก็ต มุกจีน มุกไทย

จังหวัดภูเก็ต และท้องทะเลในประเทศไทย เป็นแหล่งทรัพยากรหนึ่งที่สำคัญในการเพาะเลี้ยง และพอมีชื่อเสียงอยู่บ้าง
มุกภูเก็ตใน อดีตส่วนใหญ่ มักได้ผลผลิตแบบมุกซีก แต่ปัจจุบันนิยมทำฟาร์มมุกอะโกย่า และเซ้าท์ซีบ้างเป็นบางสายพันธุ์ เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด มีการพัฒนามากบ้างน้อยบ้างขึ้นอยู่กับฟาร์ม แต่อาจพบอุปสรรคอยู่บ้าง เช่น การถ่ายทอดเทคโนโลยี รวมถึงสภาพแวดล้อมของไทย ที่อาจมีข้อจำกัดอยู่บ้าง อาทิ ปริมาณมุกคุณภาพของผลผลิตที่ได้ และ สภาพแวดล้อมที่เกิดจากการไม่ดูแลรักษาหรือขาดการควบคุม ที่ทำให้มลภาวะเป็นพิษ ขาดสารอาหาร หรืออุณหภูมิน้ำที่เหมาะสม ฯลฯ ที่มีผลต่อการเจริญเติบโตและสร้างผลผลิต ซึ่งในฟาร์มมุกบางประเทศก็ประสบปัญหาเช่นเดียวกัน แต่เทคโนโลยีการทำฟาร์มนั้นก็มีความก้าวหน้าไปมาก อาทิ การอนุบาลหอยมุกในที่หนึ่ง และใช้แพลากไปให้เจริญเติบโตอีกทีหนึ่ง การกระตุ้นให้เกิดสารอาหารในกระชัง การสร้างสิ่งแวดล้อมเทียม เป็นต้น ซึ่งในประเทศไทยอาจมีข้อจำกัดด้านเงินทุนอยู่บ้าง จึงต้องอาศัยระยะเวลา ทั้งความรู้ทางเทคโนโลยี (Know-How) รวมถึง การปรับปรุงสายพันธุ์ต่างๆ เช่น หอยเพาะเลี้ยงบางสายพันธุ์ อาจต้องอาศัยการปรับตัวจากรุ่นสู่รุ่น เพื่อให้เข้ากับสภาพแวดล้อมในทะเลไทย หรือ บางพันธุ์อาจต้องอาศัยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์เป็นตัวเสริม หรือ บางพันธุ์ก็ยังไม่สามารถเพาะเลี้ยงได้เลย รวมถึงไข่มุกน้ำจืดในประเทศไทยด้วย ก็มีการส่งเสริมจากกรมส่งเสริมการเกษตร และสถาบันต่างๆ ในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในบริเวณที่สงบและปราศจากภัยรบกวนต่อหอย ซึ่งก็เป็นแหล่งผลิตสำคัญอยู่บ้าง

สำหรับมุกจีน เป็นมุกน้ำจืดจากแหล่งผลิตในประเทศจีนที่มีการทุ่มตลาดจากปริมาณสินค้า ด้วยจุดแข็งของต้นทุนแรงงานและขนาดของพื้นที่ผลิตเป็นสำคัญ แต่ปัจจุบัน เทคนิคและกระบวนการเร่งผลิต อาทิ การฝั่งนิวเคลียสขนาดใหญ่ (แต่ได้ชั้นเนเคอร์(Nacre)บางๆ) การกระตุ้นด้วยสารเคมีตลอดจน การปลอมปนสินค้า อาจทำให้ไข่มุกจีนต้องให้ความสำคัญในการพิจารณาเป็นพิเศษ และผลผลิตบางแห่งอาจไม่เน้นคุณภาพมากนัก ดังนั้น ขึ้นอยู่กับผู้เลือกซื้อว่าต้องการไข่มุกแท้คุณภาพเพียงใด หรือ ต้องการความเที่ยงแท้เพียงใด

อย่างไรก็ตาม ใช่ว่า จะไม่มีไข่มุกจีนที่มีคุณภาพในท้องตลาด เพราะปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้เลยว่า จีนเป็นแหล่งผลิตสำคัญของโลก มีสินค้าหลายระดับ หลากหลายคุณภาพ ส่งออกสินค้าไปทั่วโลก ดังนั้น ฟาร์ม ผู้ค้าส่ง ต่างก็ต้องปรับตัวและหันไปหาแหล่งผลิตในจีน และเหตุผลประการสำคัญคือ บางประเทศมีทรัพยากรสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่สามารถสร้างผลผลิตที่ดีได้ ดังนั้น ร้านค้าที่จะสร้างความไว้วางใจให้กับลูกค้า ไม่ควรจะนำไข่มุกด้อยคุณภาพมาหลอกขาย
ปัจจุบัน แหล่งผลิตไข่มุกมีอยู่ทั่วโลก โดยเฉพาะซีกโลกตะวันออก และซีกโลกใต้ ฟาร์มบางแห่งพยายามหนีจากสภาพแวดล้อมเก่าๆ ที่ถูกทำลายไปหาแหล่งทรัพยากรใหม่ บางแห่งพยายามรักษาและปรับปรุงให้ดีขึ้น บางแห่งเลือกที่จะใช้เทคนิคพิเศษ ดังนั้น เกณฑ์สำคัญในการเลือกซื้อไข่มุก คงไม่ได้พิจารณาแต่เพียงแหล่งผลิตแล้ว ว่าเมื่อไปถึงแหล่งผลิตจะได้ของถูกหรือของแพง เพราะบางแห่งก็คงเหลือไว้แต่ชื่อเสียงเดิม ทั้งนี้ การพิจารณาเลือกซื้อสำคัญ คือ ต้องพิจารณาที่คุณสมบัติและคุณภาพของมุกแต่ละเม็ดเป็นสำคัญ รวมถึงจากฟาร์มแห่งผลิตที่เชื่อมั่นถึงคุณภาพได้เป็นสำคัญ

ในฐานะที่วังไข่มุก ถือเป็นผู้ประกอบการหนึ่่งในแวดวงเครื่องประดับไข่มุกแท้ ก็ถือเป็นส่วนหนึ่งที่ต้องช่วยกันส่งเสริมตลาดไข่มุกแท้ที่มีคุณภาพ เพราะปัจจุบัน ปัญหาส่วนใหญ่ที่พบ มักไม่ได้เกิดจากฟาร์มมากนัก เพราะส่วนใหญ่เขาต้องพยายามทำรายได้จากผลผลิตที่ดีอยู่แล้ว แต่ที่ทำให้วงการเครื่องประดับไข่มุกเสื่อมถอยลง คือ การค้าแบบโฆษณาชวนเชื่อของผู้ประกอบการบางรายที่ทำธุรกิจแบบฉาบฉวย เช่น การหลอกลวงนักท่องเที่ยวหรือชาวต่างชาติ ให้ซื้อมุกที่ไม่ตรงตามคุณภาพกับราคาที่เสียไป บางที่หลอกหลวง หรือ ปลอมปนประเภท ปลอมปนคุณภาพ บางที่ขายเฉพาะกลุ่มทัวร์โดยให้เปอร์เซนต์หรือผลตอบแทนกับคนขับรถ ผู้แนะนำมาส่ง ไก๊ด์ผี หรือมัคคุเทศก์ที่ไม่สุจริต ให้ช่วยโฆษณาชวนเชื่อ เช่นเดียวกับการหลอกนักท่องเที่ยวไปซื้ออัญมณี หรือ การอ้างว่ามีฟาร์มของตัวเองเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ในขณะที่นำเข้ามุกจีนด้อยคุณภาพมาจำหน่าย เพราะนักท่องเที่ยวอาจไม่มีโอกาสหรือเวลาในการเปรียบเทียบสินค้า หรือไม่คุ้มค่าที่จะกลับมาทักท้วงคุณภาพได้มากนัก อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการที่ดีก็มีอยู่บ้าง เพียงแต่ผู้ซื้อควรตรวจสอบและพิจารณาถึงความน่าเชื่อถือเหล่านั้นเป็นสำคัญ

มุก Hanadama คืออะไร

Hanadama มาจากภาษาญี่ปุ่น ที่หมายถึง Spherical Flower ซึ่งคำว่า Hana ภาษาญี่ปุ่นหมายถึง ดอกไม้ ซึ่งบ่อยครั้งภาษาญี่ปุ่นจะใช้เรียกแทนความสวยงาม อีกด้วย
Hanadama นำมาเป็นคำเฉพาะที่ใช้กับไข่มุกแท้อะโกย่าที่มีคุณภาพสูงสุดหรือมีคุณสมบัติที่ดีที่สุดจากผลผลิต ซึ่งแยกเป็นประเภทเฉพาะไว้สำหรับการประมูลหรือการขายเป็นเกรด Hanadama โดยเฉพาะเท่านั้น ไข่มุกแท้อะโกย่าที่ได้รับการยอมรับเป็นมุกระดับ Hanadama จะต้องเป็นมุกที่ได้คัดสรรถึงคุณสมบัติต่างๆ ให้ดีที่สุดเท่าที่จะพึงมีในมุกอะโกย่า อาทิ ตำหนิ ความกลม ความเงางาม ความหนา รวมถึงความหาได้ยาก ซึ่งเป็นกลุ่มของดีที่สุดจากการเก็บเกี่ยวผลผลิต ซึ่งปัจจุบันมีร้านค้าบางรายยังมีความไม่เข้าใจถูกต้องสำหรับมุก Hanadama ในการบรรยายคุณสมบัติที่จะหามุกเกรดดีมาเทียบกับ Hanadama หรือเบี่ยงเบนข้อเท็จจริงออกไป เพราะ แท้จริงนั้น มุก Hanadama จะต้องเป็นมุกอะโกย่าที่ดีที่สุดนั่นเอง

ไข่มุกแท้ฮานาดามะ จะต้องมีใบรับรอง (Certificate) ของสถาบัน Pearl Science Laboratory ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นสถาบันที่ให้การรับรองและตรวจสอบคุณสมบัติของไข่มุกแท้โดยเฉพาะเท่านั้น โดยจะมีการทดสอบมุกแต่ละเม็ด โดยในใบรับรองจะแสดงและอธิบายถึงคุณสมบัติต่างๆ รวมถึงผลการทดสอบ อาทิ รูปภาพ ประเภทเครื่องประดับ ขนาด ความหนาของชั้นเลเยอร์ รูปแบบวิธีการทดสอบ เช่น การส่องขยาย การตรวจสอบภายในด้วยไฟเบอร์ออพติค การทดสอบการสะท้อนของแสง การX-Ray หรืออื่นๆ เป็นต้น

วังไข่มุกเป็นร้านจำหน่ายอัญมณีไข่มุกแท้โดยเฉพาะเพียงไม่กี่รายในประเทศที่สามารถนำไข่มุกแท้เกรด Hanadama เข้ามาจำหน่ายและสามารถจำหน่ายให้กับลูกค้าได้ ทั้งนี้ เป็นเพราะกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบไข่มุกแท้คัดคุณภาพในระดับ Hanadama นั้น ค่อนข้างให้ความสำคัญกับความเชื่อมั่นและคุณภาพเป็นสำคัญ

วิธีดูแลรักษาไข่มุกแท้

1.ควรเก็บเครื่องประดับไข่มุกแยกกับเครื่องประดับอื่นๆนะคะ
เพราะอาจจะเกิดการกระทบกันจนเป็นรอยขีดข่วนได้ค่ะ

2.ไม่ควรเก็บไข่มุกไว้ในที่ร้อนหรืออับชื้นมากเกินไปค่ะ เพราะอาจทำให้เกิดคราบคล้ายผงแป้งเคลือบผิวมุกทำให้ความแวววาวของไข่มุกลดลง แต่สามารถแก้ไขได้ด้วยการทำความสะอาดไข่มุกค่ะ

3.ก่อนใช้เครื่องประดับไข่มุกควรแต่งหน้า ทำผม ฉีดสเปรย์ให้เรียบร้อยก่อนสวมใส่ค่ะ เพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสโดยตรงของไข่มุก กับ สเปรย์ น้ำหอม เครื่องสำอางค์ ครีมบำรุงผิว และความร้อนจากไดร์เป่าผมค่ะ เพื่อการถนอมไข่มุกให้สวยเงางามเช่นเดิมนะคะ

วิธีทำความสะอาดไข่มุก

หลังการใช้งานเครื่องประดับไข่มุก ควรทำความสะอาดไข่มุกนะคะ โดยให้ใช้ผ้านุ่มๆชุบน้ำอุ่นๆ บิดให้หมาดค่อยๆเช็ดไข่มุกทีละเม็ดค่ะ เเล้วใช้ผ้านุ่มๆแห้งๆเช็ดตามอีกรอบ วางไว้ให้เเห้งสนิทแล้วค่อยนำมาใช้หรือจัดเก็บ และบางทีมีหลายท่านประสบปัญหาเวลาเก็บไข่มุกไว้ในตู้เซฟนานๆพอจะนำไข่มุกมาใช้งานอาจจะเห็นคราบคล้ายผงแป้งเคลือบอยู่บนผิวไข่มุก
(เนื่องจากความชื้นภายในตู้เซฟของแต่ละตู้เซฟไม่เท่ากันค่ะ) และอาจทำให้ไข่มุกไม่เงาสวยเหมือนเดิม

แนะนำให้ใช้วิธีด้านบนในการทำความสะอาดเพียงเท่านี้ไข่มุกก็จะกลับมาสวยงามเเวววาวเช่นเดิมแล้วค่ะ